
มีวิธีปฏิบัติอยู่ 4 วิธีนะ
1.ต้องรู้ก่อนว่าเราจะเรียนภาษาอะไร
2.คิดว่าเรามีเวลาว่างที่จะเรียนภาษาไหม ประมาณ ครึ่งชั่วโมงต่อวันก็พอไหว เพราะภาษาถ้าไม่ทบทวนบ่อยๆแล้วได้คืนอาจารย์แน่ๆ
3.ลองเหล่สายตาจากหน้าคอม หรือจากงานมาดูที่ชั้นวางหนังสือในร้านหนังสือดู เอาหนังสือแบบที่เราลองเปิดดู พลิกดู อ่านดู และคิดดูแล้ว ได้ผลสรุปออกมาว่า เราสามารถเรียนหนังสือเล่มนี้ได้ ไม่ใช่ซื้อไปปุบปรากฏว่าเราอ่านไม่รู้เรื่อง ก็เสียเงินเปล่า
4.หมั่นทบทวนและเรียนตามเวลาที่เรากำหนดไว้
หมายเหตุ : หนังสือที่เราควรจ่ายเงินเพื่อนำมาเก็บไว้ที่บ้านในการเรียนภาษา ควรเป็นหนังสือที่มีซีดีประกอบ สำหรับการฟังสำเนียงเจ้าของภาษา แต่ไม่ควรเป็นหนังสือที่มีแต่รูปประโยคมาให้ท่องจำจนสมองระเบิด ให้หาหนังสือที่เริ่มตั้งแต่พื้นฐานในแบบที่เราคิดว่าสามารถเรียนได้
1.ต้องรู้ก่อนว่าเราจะเรียนภาษาอะไร
2.คิดว่าเรามีเวลาว่างที่จะเรียนภาษาไหม ประมาณ ครึ่งชั่วโมงต่อวันก็พอไหว เพราะภาษาถ้าไม่ทบทวนบ่อยๆแล้วได้คืนอาจารย์แน่ๆ
3.ลองเหล่สายตาจากหน้าคอม หรือจากงานมาดูที่ชั้นวางหนังสือในร้านหนังสือดู เอาหนังสือแบบที่เราลองเปิดดู พลิกดู อ่านดู และคิดดูแล้ว ได้ผลสรุปออกมาว่า เราสามารถเรียนหนังสือเล่มนี้ได้ ไม่ใช่ซื้อไปปุบปรากฏว่าเราอ่านไม่รู้เรื่อง ก็เสียเงินเปล่า
4.หมั่นทบทวนและเรียนตามเวลาที่เรากำหนดไว้
หมายเหตุ : หนังสือที่เราควรจ่ายเงินเพื่อนำมาเก็บไว้ที่บ้านในการเรียนภาษา ควรเป็นหนังสือที่มีซีดีประกอบ สำหรับการฟังสำเนียงเจ้าของภาษา แต่ไม่ควรเป็นหนังสือที่มีแต่รูปประโยคมาให้ท่องจำจนสมองระเบิด ให้หาหนังสือที่เริ่มตั้งแต่พื้นฐานในแบบที่เราคิดว่าสามารถเรียนได้
รอติดตามค่ะ ^^
ตอบลบอยากได้วิธีการท่องศัพท์ที่จะทำให้ไม่ลืมภาษาอื่นที่เรียนมาก่อนหน้าอ่ะค่ะ จะเขียนคำที่แปลตรงกันเรียงกันเป็นแถวเอาไว้ท่องไม่แน่ใจว่าจะเป็นไอเดียที่ดีมั้ย
ไปลงครอสจีนอยู่ครอสนึงแล้วเริ่มจำคำศัพท์ไม่ได้ ตอนนี้ลองท่องเองดูไม่รู้จะรอดมั้ย กะเอาแบบไปเรื่อยๆ อิอิ แต่ดันโลภเล็กน้อยเพราะปัดฝุ่นภาษาฝรั่งเศสไปด้วยเลยหลังจากที่ยอมนั่งมั่วตอนสอบเข้ามหาลัย (กรณีเดียวกับภาษาจีนคือจำศัพท์ไม่ได้ -_-")
มีเกาหลีอีกที่คอยเก็บเล็กเก็บน้อยเวลาเปิดเจอบล็อกที่มีคนทำไว้ (อันนี้ไม่ซีเรียส ก้อตัวอักษรมันน่ารักดีนี่นา)
ว่างๆแวะไปเยี่ยมเยียนกันบ้างนะคะ ^^